ยินดีต้อนรับทุกท่าน

สวัสดีดีครับ
ผม ประกิต สารเสนา
ยินดีต้อนรับทุกท่านครับ

สาระที่ 4 ประวัติศาสตร์

คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน (วัดป่าไทรงาม)
ประวัติวัดป่าไทรงาม
วัดป่าไทรงาม อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี เป็นวัดที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ ประจำปี 2544 และยังได้รับพระราชทานรางวัลเข็มทองคำจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2545 ซึ่งแต่ก่อนวัดป่าไทรงามเป็นสุสานร้างกลางเมืองอำเภอเดชอุดม ล้อมรอบด้วยผืนนากว้างใหญ่ ด้วยปณิธานอันแน่วแน่ของ พระอธิการอเนก ยสทินฺโน ลูกศิษย์ของ หลวงปู่ชา สุภัทฺโธ วัดหนองป่าพง จึงได้ค่อยๆ ฟื้นฟู พัฒนา และปลูกป่า จนได้รับรางวัลในที่สุด

วัดป่าไทรงาม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของอำเภอเดชอุดม ห่างจากสถานีขนส่งอำเภอเดชอุดมประมาณ 1 กิโลเมตร เริ่มก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์เมื่อปี พ.ศ.2515 อาศัยเนื้อที่ป่าสาธารณะ (ป่าช้า) บ้านตลาด จำนวน 25 ไร่ ไม่มีต้นไม้ใหญ่ แห้งแล้ง กันดาร วัดป่าไทรงาม เกิดขึ้นจากชาวเดชอุดม ศรัทธาในข้อวัตรปฏิบัติของหลวงปู่ชา สุภัทฺโธ วัดหนองป่าพง ชาวอำเภอเดชอุดมจึงไปกราบนมัสการพระคุณเจ้าเพื่อมาชี้แนะแนวทางปฏิบัติ หลวงปู่ชา สุภัทฺโธ จึงให้ความเมตตาส่ง พระอธิการอเนก ยสทินฺโน ซึ่งพื้นเพเดิมเป็นชาวเดชอุดม เป็นหัวหน้าคณะมาจำวัดอยู่สำนักสงฆ์แห่งนี้ นับเป็นสาขาที่ 10 ของวัดหนองป่าพง
ปกติสำนักสงฆ์แห่งนี้ มีพระคุณเจ้าจำพรรษาอยู่เป็นประจำทุกปี ประมาณ 8-10 รูป เนื่องจากในขณะนั้น มีวัดซึ่งเป็นเครือข่ายของวัดป่าไทรงามหลายแห่ง จึงได้ส่งพระคุณเจ้าที่เป็นลูกศิษย์ไปประจำสาขาดังกล่าว
วัดป่าไทรงามได้เป็นวัดสมบูรณ์เมื่อปี พ.ศ. 2545 ปัจจุบันมีเนื้อที่ 130 ไร่ มีการขุดคลองกว้าง 8 เมตร ลึก 4 เมตร แล้วนำดินที่ขุดขึ้นมาทำคูดินให้เป็นกำแพงวัด ปลูกต้นไม้แทนรั้ว เสียงรบกวนต่างๆ และเสียงประกาศจากชุมชนรบกวนได้ยากเพราะกำแพงดิน กำแพงต้นไม้ ช่วยลดปริมาณความดังของเสียงลง และได้ประโยชน์จากน้ำเป็นการกักเก็บน้ำอย่างชาญฉลาด ให้ความชุ่มชื้นแก่ต้นไม้ และยังเป็นแหล่งเพาะขยายพันธุ์สัตว์น้ำได้อย่างดี มีการปลูกบัวนานาชนิด นอกจากนี้ ยังช่วยลดอุณหภูมิในฤดูร้อนได้เป็นอย่างดี จนได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ ประจำปี 2544 รับพระราชทานรางวัลเข็มทองคำจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2545 วัดป่าไทรงาม ยึดถือแนวคำสอนเหมือนวัดหนองป่าพง โดยสอนมุ่งเน้นให้พุทธศาสนิกชนเกิดปัญญา แก้ปัญหาด้วยตนเอง อาศัยความขยันหมั่นเพียรเป็นที่ตั้ง ท่านทั้งเทศน์ให้ฟังและปฏิบัติเป็นแบบอย่างพระภิกษุสามเณรมีความเพียรในการปฏิบัติธรรมและทำกิจวัตรประจำวัน โดยอาศัยสติเป็นตัวกำหนดในการปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดสมาธิและก่อให้เกิดปัญญาในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งนี้ เนื่องจากวัดไม่มีเครื่องรางของขลัง ไม่แจกพระเครื่อง หลีกเลี่ยงที่จะรดน้ำมนต์ ไม่มีมหรสพในวัดไม่ว่ากรณีใดๆ การทำบุญไม่นิยมการเรี่ยไร ถ้าอยากทำขอให้ทำด้วยความศรัทธา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น